เนื้อหาประชาสัมพันธ์ : เหนือ-อีสาน’ ค่าPM2.5สูง
วันที่ประกาศ : 09/03/2564
ผู้ประกาศ : งานบริการและเผยแพร่วิชาการ
รายละเอียด

 เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวัน พบปริมาณ PM2.5 ในประเทศเกินค่ามาตรฐานใน จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.ตาก และ จ.อุบลราชธานี โดยภาคเหนือเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 24-329 มคก./ลบ.ม., ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19-65 มคก./ลบ.ม., ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 12-33 มคก./ลบ.ม., ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 14-26 มคก./ลบ.ม., ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 8-25 มคก./ลบ.ม. และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ.ร่วมกับ? ?กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 14-36 มคก./ลบ.ม.    ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศระบุว่า ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ส่วนประชาชน?ที่อยู่?บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ? (พื้นที่สีแดง)? ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์    นอกจากนี้ จากการจัดอันดับคุณภาพอากาศ 50 เมืองใหญ่ทั่วโลกของเว็บไซต์ www.airvisual.com พบเชียงใหม่ยังติดอันดับเมืองใหญ่ที่มีคุณภาพอากาศแย่ 1 ใน 3 ของโลก หลังขึ้นเป็นอันดับ 1 เมืองที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุดติดต่อกัน 2 วัน

    จิสด้าเปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียม Suomi NPP ของระบบ VIIRS พบจุดความร้อนรวมทั้งประเทศ 1,817 จุด โดยภาคเหนือพบจุดความร้อนมากที่สุด 1,505 จุด ซึ่งลดลงจากวันก่อนเล็กน้อย โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนพบจุดความร้อนมากถึง 418 จุด รองลงมาจังหวัดลำปาง 291 จุด และจังหวัดเชียงใหม่ 219 จุด ตามลำดับ ซึ่งพบมากสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 855 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 495 จุด พื้นที่เกษตร 54 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 50 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 49 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 2 จุด    "จากภาพแสดงให้เห็นว่าจุดความร้อนทั้งประเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากวันก่อน และยังคงมีการกระจุกตัวของจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ จุดความร้อนเริ่มลดลง ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านยังคงเห็นอย่างต่อเนื่อง โดยสหภาพเมียนมามาเป็นอันดับหนึ่ง มีจุดความร้อนสูงถึง 6,029 จุด รองลงมาที่ราชอาณาจักรกัมพูชา 1,729 จุด ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดใกล้เคียงที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอาจได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองและหมอกควัน ที่อาจลอยข้ามแดนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง" ข้อมูลจากจิสด้าระบุ

    กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน กับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ของภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้

    สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส.






[ ปิดหน้าต่างนี้ ]